Microgreens ไมโครกรีน ผักจิ๋วที่คุณค่าใหญ่มาก

หมวดหมู่: IDEAS & DIY

                  ไมโครกรีน (Microgreen) คือต้นอ่อน หรือต้นกล้าของพืชผักที่ยังไม่โตมีใบแท้ 2-3 ใบ สูง 1-4 นิ้ว สามารถนำมารับประทานได้โดยคุณค่าของสารอาหารที่ได้รับนั้นจะมากกว่าพืชผักที่โตเต็มวัยแล้วชนิดเดียวกัน 1-40 เท่าในสัดส่วนที่เท่ากัน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเนื่องจากสีสัน และรูปทรงที่น่ารัก เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย และรสชาติที่เข้มข้น

 

 Q : ทำไมไมโครกรีนถึงพึ่งเป็นที่นิยม?               

 A : ไมโครกรีนสมัยก่อนมักทำหน้าที่เป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่งอาหารเพื่อความสวยงามน่ารับประทานเท่านั้น ซึ่งต่อมานักโภชนาการพบว่าผักจิ๋วเหล่านี้มีคุณค่าสารอาหารมากกว่าผักโตเต็มวัย และสามารถนำมาดัดแปลงเมนูได้หลากหลายรับประทานง่ายตั้งแต่การนำมาปั่นเป็นเครื่องดื่มสมูทตี้ หรือ นำมาโรยหน้าทานกับซุป สลัด หรือแซนวิช ทานคู่กับน้ำพริก นอกจากนี้ ไมผักไมโครกรีนยังเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ และอุดมด้วยเเร่ธาตุโพเเทสเซียม เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม และทองเเดง

 

Q : ผักอะไรบ้างที่นิยมทานแบบไมโครกรีน 

A :

  • ไมโครกรีนกลุ่มกะหล่ำดอก โบรอกโคลี กะหล่ำปลี
  • ไมโครกรีนกลุ่มผักกาดหอม
  • ไมโครกรีนกลุ่มผักชีฝรั่ง แครอท ขึ้นฉ่าย
  • โมโครกรีนกลุ่มกระเทียม ต้นหอม และหัวหอม
  • ไมโครกรีนกลุ่มหัวผักกาด ผักขม
  • ไมโครกรีนกลุ่มแตงกวา แตงโม
  • ไมโครกรีนกลุ่มของธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าว ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์  ถั่วชิกพี ถั่วฝักยาว

สำหรับไมโครกรีนในประเทศไทยที่นิยมปลูกกินและจำหน่าย คือ ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนผักบุ้ง ต้นอ่อนอัลฟัลฟ่า ต้นอ่อนโต้วเหมี่ยว (ถั่วลันเตา) 

โดยเฉพาะไมโครกรีนกลุ่มกระหล่ำ บร็อคโคลี คะน้า กะหล่ำปลี หัวไชเท้า (ไควาเระ) มัสตาร์ด เนื่องจากมีสารต้านมะเร็ง (glucosinolate) ซึ่งมีเฉพาะในผักตระกูลกะหล่ำเท่านั่น โดยเปรียบเทียบเช่นการทานต้นอ่อนบร็อคโคลีเพียง 50 กรัม ได้คุณประโยชน์เท่ากับการทานบร็อคโคลีโตเต็มวัย 1 หัว 

 ต้นอ่อนไมโครกรีนของเม็ดกระหล่ำปลีม่วง( red cabbage ) เครดิตภาพ : https://www.treehugger.com/ 

เครสใบหยัก ไมโครกรีน ( Cressing cress ) มาสตราด ไมโครกรีน  ( Mustard )

เครดิตภาพ : www.makroclick.com

Q : กินไมโครกรีนปลอดภัยหรือไม่ ?              

 A : การกินไมโครกรีน หรือต้นอ่อนทั่วไปนั้นปลอดภัย เเต่อาจเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษได้เช่น ถ้ามีการปนเปื้อนเชื้อเเบคทีเรียในไมโครกรีน โดยปกติเเล้วเเบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตได้ในไมโครกรีนน้อยกว่าในต้นกล้า สำหรับไมโครกรีนต้องการสภาพอากาศที่อบอุ่น เเละมีความชื่นน้อยกว่าต้นกล้าเล็กน้อย ดังนั้น ถ้าหากเราต้องการปลูกไมโครกรีนที่บ้านนั้น จำเป็นต้องเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ ปราศจากการปนเปื้นของเชื้อเเบคทีเรียที่เป็นอันตราย เช่น ซาโมเนลลา และเชื้อ อีโคไล เป็นต้นสำหรับดินที่นิยมนำมาใช้ปลูกไมโครกรีนมากที่สุด คือ พีทมอส (Peat) เพอร์ไลท์ เเละเวอร์ไมคูไลท์ ที่เหมาะสำหรับใช้ปลูกครั้งเดียว และถือว่าสะอาดมากๆ


วิธีปลูกไมโครกรีนด้วยตนเอง

การปลูกไมโครกรีนนั้นง่ายมาก ไม้ยุ่งยาก เเละไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือเวลามากมายในการดูแล เราสามารถปลูกได้ทั้งในที่ร่มและกลางเเจ้ง  โดยต้องมีอุปกรณ์และเมล็ดพันธุ์ ดังนี้

  1. เมล็ดพันธุ์ไมโครกรีนคุณภาพต้องดี
  2. ดินที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก อาจเป็นดินที่ปรุงเอง หรือปุ๋ยหมักที่ทำเอง โดยใช้ปลูกครั้งเดียวเท่านั้น
  3. มีเเสงที่เหมาะสม โดยจะต้องให้โดนแดดต่อวัน 12-16 ชั่วโมง

ข้อคำแนะนำ

  • เติมดินลงในกระถาง หรือภาชนะ ให้เเน่ใจว่าดินไม่อัดกันเเน่นจนเกินไปและรดน้ำเบาๆ
  • โรยเมล็ดพันธุ์ไมโครกรีนลงบนพื้นดินอย่างสม่ำเสมอที่สุด เท่าที่จะทำได้
  • ใช้ละอองน้ำรดลงบนเมล็ดเบาๆ แล้วปิดคลุมด้วยภาชนะพลาสติก
  • หมั่นสังเกตุถาดไมโครกรีนทุกวัน และรดน้ำ (แบบละออง) ให้เมล็ดมีความชุ่มชื้น
  • หลังจาก 2-3 วัน เมื่อเมล็ดงอกเเล้วให้นำพลาสติกคลุมออกเพื่อให้ไมโครกรีนโดนเเสงเเดด
  • รดน้ำวันละ 1 ครั้ง
  • หลังจาก 7-10 วัน ไมโครกรีนก็พร้อมเก็บเกี่ยว

04 กันยายน 2566

ผู้ชม 1686 ครั้ง